ก็ไม่มีไรมาก ที่ผมมาเล่าเรื่องเพราะอยากจะบันทึกเรื่องราวนี้เอาไว้ เพราะว่ากันว่าคนเราลืมความฝันได้เร็วมากซึ่งมันเป็นความฝันที่ทำให้ผมรู้สึกไม่ต่างกับการตกหลุมรักในโลกความเป็นจริง (ภาษาอาจไม่ได้สวยมาก เล่าจากความรู้สึกล้วนๆ)
เท่าที่จำความได้คือเริ่มแรกผมฝันถึงช่วงที่กำลังเรียนอยู่มัธยมปลายแต่เป็นโรงเรียนที่ผมไม่ได้เรียนตอน ม.ปลายจริงๆ ต่อมาจำได้ว่าผมได้วาปไปเรียนต่อที่ ตปท รู้สึกเหมือนจะญี่ปุ่นแล้วก็ไปเจอเธอคนนี้ที่มาเรียนต่อคนเดียว แต่เธออยู่ที่นี่มาก่อนแล้ว เรารู้จักกันที่ รร มัธยมปลายซึ่งไม่ใช่โรงเรียนตอนม.ปลายของผมจริงๆ แต่ในโรงเรียนนี้มีเพื่อนม.ปลายของผมหลายคน และภาพมันตัดไม่รู้ว่ารู้จักกันได้ไงรู้ตัวอีกทีก็สนิทกันซะแล้ว เรามักจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันบ่อยๆที่โรงเรียน เธอบอกเธอมาเรียนต่อคนเดียวคุยไปคุยมาก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน แล้วเราก็ชวนกันไปเที่ยว จำได้ว่าเราใช้วิธีเดินกันไปคุยไป พอมีอยู่ช่วงหนึ่งเธอบอกเธอร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง มีโรคประจำตัวอะไรสักอย่าง จำได้คร่าวๆว่าช่วงนี้ผมรู้สึกดีกับเธอมากเหมือนว่าเรื่องราวชีวิตที่เธอเล่ามันน่าสนใจไปซะทุกเรื่องแม้จะเป็นการบ่นเล็กๆน้อยๆอะไรก็ตาม แต่ผมก็ยังไม่ได้รู้สึกว่าเป็นความรัก สักพักภาพก็ตัดมาที่เขาวงกตเหมือนเป็นแข่งวิ่งมาราธอน ก็ท้าทายกันไปมาสักพักก็กลายเป็นวิ่งแข่งกันเฉย จำได้ว่าผมหลงเพราะไม่ชินทาง กว่าจะหาทางออกมาได้ก็ไม่เจอเธออีกแล้ว กลายเป็นว่าเจออาจารศิลปะการต่อสู้แก่ๆแทน จำได้ว่าผมเริ่มมีความรู้สึกว่าอยากจะเจอเธออีก ไปๆมาๆผมเริ่มรู้สึกว่าตอนนี้ผมคิดถึงเธอตลอดเวลา ผมเริ่มมั่นใจแล้วล่ะว่าตอนนี้ ผมคงชอบเธอเข้าแล้วแน่ๆ ต้องหาเธอให้เจอในหัวผมคิดแค่นี้ พอผมเดินต่อมากลับกลายเป็นเจอกลุ่มเพื่อนม.ปลายของผม แล้วพวกเราก็เหมือนกำลังอยู่ในสวนสนุกที่เป็นบ้านผีสิง ผมกับเพื่อนก็เล่นด้วยกัน แต่ผมกลับไม่ค่อยรู้สึกกลัวเลย เพราะในหัวผมตอนนี้คิดถึงแต่เธอคนนั้น พอจบออกไปจำได้ว่าเหมือนกลายเป็นว่าผมมาเที่ยวกับญาติๆและกลุ่มเพื่อนๆม.ปลาย โดยมากับรถของที่บ้านกับรถเช่าของเพื่อนๆ ผมมองไปเห็นว่าที่ๆเราพึ่งออกมากันเหมือนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเป็นเกาะขนาดใหญ่ คล้ายๆสวนสนุกพวก ดิสนี่แลนด์ จำได้ว่าผมรีบถามญาตของผมว่าที่นี่คือที่ไหน เค้าบอกผมว่า ฮิเคะโคบุโระ แล้วสักพักผมก็เริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาในโลกแห่งความเป็นจริง ตอนนั้นถึงจะรู้ก็เหอะว่ามันเป็นความฝัน แต่ผมก็ไม่อาจห้ามความรู้สึกที่พึ่งเกิดขึ้นไปได้ มันสมจริงและต่อเนื่องมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงตอนประมาณ11โมงกว่าๆ ผมนึกย้อนไปถึงเรื่องราวที่พึ่งได้เจอกับเธอในความฝันแล้วผมก็อดยิ้มไม่ได้ แต่เป็นการยิ้มในใจ ตอนนี้ภาพของเธอคนนั้นเริ่มเลือนลางลงไปแล้วล่ะ ผมพยายามจะนึกถึงลายละเอียดใบหน้าแต่ก็จำไม่ได้ แต่พอจะเห็นภาพลางๆว่าเธอเป็นคนค่อนข้างผอม ผิวมาทางเกือบจะขาวน้ำผึ้งนิดๆ เธอเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเอง มองโลกในแง่ดี ถึงจะมีโรคร้ายแรงก็ไม่ได้ดูเศร้าเลย โทนเสียงกับรอยยิ้มของเธอที่เลือนลางอยู่ในหัวผมที่ค่อยๆเลือนลางลงไป ผมจะจำเรื่องราวดีๆนี้ตลอดไป หวังว่าสักวันถ้าผมลืมเรื่องนี้ไป การได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้จะทำให้ผมนึกถึงความรู้สึกนี้ได้อีกครั้ง แม้จะไม่มากเท่าเดิมก็ตาม................. 13/1/2016
เคยพบรักในความฝันไหมครับ?
เท่าที่จำความได้คือเริ่มแรกผมฝันถึงช่วงที่กำลังเรียนอยู่มัธยมปลายแต่เป็นโรงเรียนที่ผมไม่ได้เรียนตอน ม.ปลายจริงๆ ต่อมาจำได้ว่าผมได้วาปไปเรียนต่อที่ ตปท รู้สึกเหมือนจะญี่ปุ่นแล้วก็ไปเจอเธอคนนี้ที่มาเรียนต่อคนเดียว แต่เธออยู่ที่นี่มาก่อนแล้ว เรารู้จักกันที่ รร มัธยมปลายซึ่งไม่ใช่โรงเรียนตอนม.ปลายของผมจริงๆ แต่ในโรงเรียนนี้มีเพื่อนม.ปลายของผมหลายคน และภาพมันตัดไม่รู้ว่ารู้จักกันได้ไงรู้ตัวอีกทีก็สนิทกันซะแล้ว เรามักจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันบ่อยๆที่โรงเรียน เธอบอกเธอมาเรียนต่อคนเดียวคุยไปคุยมาก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน แล้วเราก็ชวนกันไปเที่ยว จำได้ว่าเราใช้วิธีเดินกันไปคุยไป พอมีอยู่ช่วงหนึ่งเธอบอกเธอร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง มีโรคประจำตัวอะไรสักอย่าง จำได้คร่าวๆว่าช่วงนี้ผมรู้สึกดีกับเธอมากเหมือนว่าเรื่องราวชีวิตที่เธอเล่ามันน่าสนใจไปซะทุกเรื่องแม้จะเป็นการบ่นเล็กๆน้อยๆอะไรก็ตาม แต่ผมก็ยังไม่ได้รู้สึกว่าเป็นความรัก สักพักภาพก็ตัดมาที่เขาวงกตเหมือนเป็นแข่งวิ่งมาราธอน ก็ท้าทายกันไปมาสักพักก็กลายเป็นวิ่งแข่งกันเฉย จำได้ว่าผมหลงเพราะไม่ชินทาง กว่าจะหาทางออกมาได้ก็ไม่เจอเธออีกแล้ว กลายเป็นว่าเจออาจารศิลปะการต่อสู้แก่ๆแทน จำได้ว่าผมเริ่มมีความรู้สึกว่าอยากจะเจอเธออีก ไปๆมาๆผมเริ่มรู้สึกว่าตอนนี้ผมคิดถึงเธอตลอดเวลา ผมเริ่มมั่นใจแล้วล่ะว่าตอนนี้ ผมคงชอบเธอเข้าแล้วแน่ๆ ต้องหาเธอให้เจอในหัวผมคิดแค่นี้ พอผมเดินต่อมากลับกลายเป็นเจอกลุ่มเพื่อนม.ปลายของผม แล้วพวกเราก็เหมือนกำลังอยู่ในสวนสนุกที่เป็นบ้านผีสิง ผมกับเพื่อนก็เล่นด้วยกัน แต่ผมกลับไม่ค่อยรู้สึกกลัวเลย เพราะในหัวผมตอนนี้คิดถึงแต่เธอคนนั้น พอจบออกไปจำได้ว่าเหมือนกลายเป็นว่าผมมาเที่ยวกับญาติๆและกลุ่มเพื่อนๆม.ปลาย โดยมากับรถของที่บ้านกับรถเช่าของเพื่อนๆ ผมมองไปเห็นว่าที่ๆเราพึ่งออกมากันเหมือนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเป็นเกาะขนาดใหญ่ คล้ายๆสวนสนุกพวก ดิสนี่แลนด์ จำได้ว่าผมรีบถามญาตของผมว่าที่นี่คือที่ไหน เค้าบอกผมว่า ฮิเคะโคบุโระ แล้วสักพักผมก็เริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาในโลกแห่งความเป็นจริง ตอนนั้นถึงจะรู้ก็เหอะว่ามันเป็นความฝัน แต่ผมก็ไม่อาจห้ามความรู้สึกที่พึ่งเกิดขึ้นไปได้ มันสมจริงและต่อเนื่องมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงตอนประมาณ11โมงกว่าๆ ผมนึกย้อนไปถึงเรื่องราวที่พึ่งได้เจอกับเธอในความฝันแล้วผมก็อดยิ้มไม่ได้ แต่เป็นการยิ้มในใจ ตอนนี้ภาพของเธอคนนั้นเริ่มเลือนลางลงไปแล้วล่ะ ผมพยายามจะนึกถึงลายละเอียดใบหน้าแต่ก็จำไม่ได้ แต่พอจะเห็นภาพลางๆว่าเธอเป็นคนค่อนข้างผอม ผิวมาทางเกือบจะขาวน้ำผึ้งนิดๆ เธอเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเอง มองโลกในแง่ดี ถึงจะมีโรคร้ายแรงก็ไม่ได้ดูเศร้าเลย โทนเสียงกับรอยยิ้มของเธอที่เลือนลางอยู่ในหัวผมที่ค่อยๆเลือนลางลงไป ผมจะจำเรื่องราวดีๆนี้ตลอดไป หวังว่าสักวันถ้าผมลืมเรื่องนี้ไป การได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้จะทำให้ผมนึกถึงความรู้สึกนี้ได้อีกครั้ง แม้จะไม่มากเท่าเดิมก็ตาม................. 13/1/2016